สมุนไพรอาหารเสริมท่านชายและอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ที่จำหน่ายผ่านเว็บไวต์หลักของเรา

สมุนไพรท่านชาย เพิ่มขนาดแก้หลั่งเร็ว www.doublemaxx.com www.doublemaxxx.com www.superd-maxxx.com www.doublemaxx.com.co www.superdmaxxx.com www.superdmaxx.com  www.turbo-max.com www.turbomax.org www.turbomax.biz www.climaxx.org www.cli-maxx.com www.hengheng1.com www.เฮงเฮง-1.com www.เฮงเฮง.com www.ดับเบิ้ลแม็ก.com www.ดับเบิ้ลแม็กซ์.com www.ซุปเปอร์ดีแม็ก.com www.ซุปเปอร์ดีแม็กซ์.com www.ซุปเปอร์แม็กซ์.com www.ไคล์แม็กซ์.com www.อาหารเสริมชาย.com www.bb-maxx.com www.doublemaxx.net www.double-maxxx.com www.turbomaxx.com www.twoup-by-turbomax.com www.racehorsewaidena.com www.วีเอ็มพลัส.com www.บีบีแม็กซ์.com www.เพิ่มขนาดท่านชาย.COM www.vmplus.net www.turbomax.in.th www.sizemaxx-gold.com www.เทอร์โบแม็ก.com

สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกันรักษาโรค www.ไบโอวัน.com www.สาหร่ายแดง.com www.แอสต้าเอ็กซ์.com www.bl-99.com www.บีแอล-99.com www.ไบโอแอสติน.com www.vitacelgold.com www.bl99.org www.bl99.info www.bl99.biz www.ทวนทอง99.com www.ไวต้าเซลโกลด์.com www.เห็ดหลินจือเนเจอร์พลัส.com www.สาหร่ายแดงไบโอวัน.com www.แอสต้าเอกซ์.com

 


วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

รู้จักกับ eBay

google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);

รู้จักกับ eBay

หากอินเทอร์เน็ตคือห้วงจักรวาล อีเบย์ก็จะเป็นดาวเคราะห์ดวงแรกๆ ที่สุกสว่างอยู่ไม่ไกลจากดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ดวงนี้พบสิ่งมีชีวิต และสินค้ามากมาย พื้นผิวดาวและบรรยากาศโดยรอบมีลักษณะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ สาธารณูปโภคของประชากรค่อนข้างเพียบพร้อมและมีแนวโน้มว่าจะพัฒนาต่อเนื่องไปอย่างไม่หยุดยั้ง อีเบย์จึงเป็นดาวเคราะห์ดวงที่น่าสนใจและน่าจับตามองสำหรับบรรดาสิ่งมีชีวิตที่มีวิสัยทัศน์ทั่วจักรวาลมานาน และนับวันจะมีจำนวนผู้ที่พากันเข้าไปอาศัย ศึกษา และเยี่ยมชมดาวเคราะห์ดวงนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทิ้งห่างดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ
อีเบย์เริ่มจากการเป็น Free Market หรือ ตลาดนัดขายของเก่าของวงการอินเทอร์เน็ต ที่อาศัยการผสมผสานกันอย่างลงตัวของ ทฤษฎีทุนนิยม หลักจิตวิทยา พฤติกรรมมนุษย์ และ การพัฒนาของเทคโนโลยี เป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จ จนสามารถเคลมว่าตัวเองเป็น “King of eCommerce” หรือ “ ธุรกิจแฟรนไชส์อีคอมเมิร์ซที่ทรงคุณค่าที่สุดในโลก” ในยุคนี้
หากมองในมุมของผู้ซื้อ อีเบย์เป็นร้านค้าออนไลน์ที่มั่นใจได้ว่าจะสามารถหาของที่ตนเองต้องการได้เสมอไม่ว่ามันคืออะไร แม้ว่าจะไม่เคยใช้งานและไม่รู้จักใครเลยในแวดวงอีเบย์มาก่อน ขณะที่มิติของผู้ขาย อีเบย์ คือ แหล่งรวมลูกค้าชั้นดีจากทั่วโลก ที่พร้อมจะซื้อ ที่สำคัญมีกำลังพร้อมจ่ายสูงขึ้นเรื่อยๆ เพียงเพื่อชัยชนะแห่งการได้สินค้านั้นๆ มาครอง
กุญแจแห่งความสำเร็จของอีเบย์อยู่ที่การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการประยุกต์หลักการตลาดในอุดมคติ ของ Adam Smith ซึ่งใช้พฤติกรรมมนุษย์เป็นเครื่องมือนำตลาดให้เปลี่ยนแปลงตามการเพิ่มขึ้นและลดลงของ อุปสงค์ และ อุปทาน นำมาใช้กับเทคโนโลยี eMarketplace บนอินเทอร์เน็ตได้อย่างชาญฉลาด ทำให้เกิดเป็นพื้นที่กลางในการติดต่อซื้อขายขึ้นสำหรับลูกค้าทั่วโลก ซึ่งอีเบย์สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เต็มที่ได้อย่างไม่มีสิ้นสุด โดยทีมงานไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขั้นตอนการซื้อขาย การจัดการคลังสินค้า การจัดส่ง หรือรับผิดชอบความพึงพอใจของผู้ซื้อและผู้ขายแต่อย่างใด
หน้าที่ของอีเบย์จึงมีแค่ดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่ อำนวยความสะดวก และเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็น แล้วนำไปปรับปรุงพัฒนาให้ดีและรวดเร็วที่สุดเท่านั้น ซึ่งอีเบย์ก็สามารถทำหน้าที่นั้นได้ดีทีเดียว จากตลาดออนไลน์เล็กๆ บนอินเทอร์เน็ตอีเบย์สามารถพัฒนาไปสู่การเป็น eMarketplace ที่มีขนาดใหญ่ และ มีจำนวนสินค้ามากที่สุดในโลกได้ในเวลาไม่นาน แถมยังครองรักษาตำแหน่งแชมป์เว็บประมูลยอดนิยมระดับโลกได้ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
eBay Timeline
ประเทศสหรัฐอเมริกา
วันแรงงาน เดือนกันยายน 1995
อีเบย์ออนไลน์อย่างเป็นทางการครั้งแรกในนาม AuctionWeb โดยการริเริ่มของ Pierre Omidyar ซึ่งเขียนโปรแกรมขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อแลกเปลี่ยนและซื้อขายหลอดใส่ลูกอม Pez ของสะสมของแฟนสาว Pam Wesley ในเวลานั้นยังเป็นโปรแกรมที่มีหน้าตาเป็นสีขาว- ดำอยู่ และเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเว็บไซต์ของบริษัทเล็กๆชื่อ Echo Bay Technology Group ที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคโนโลยีซึ่ง Pierre เป็นเจ้าของ สินค้าที่ Pierre ประเดิมขายเป็นชิ้นแรก คือ เครื่องชี้เลเซอร์ที่เสียแล้วของเขาในราคา $14
ฤดูใบไม้ร่วง 1995
Pierre เปิด Online Bulletin Board ขึ้นเพื่อติดต่อแลกเปลี่ยนคำถามและคำแนะนำระหว่างผู้ใช้ในขณะนั้น ซึ่งพัฒนามาเป็น eBay Community ในเวลาต่อมา
กุมภาพันธ์ 1996
Pierre คิดค้นระบบ Feedback Rating ขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการประเมินความน่าเชื่อถือของสมาชิกเว็บแต่ละคน ซึ่งมีผู้ใช้จำนวนมากโพสต์เข้ามาสอบถาม แม้ว่าในระยะเริ่มแรกนี้การปรับปรุงพัฒนา AuctionWeb จะยังคงขึ้นอยู่กับ Pierre เป็นหลัก แต่เขาเองก็กล่าวว่าที่มาของฟังก์ชั่นสำคัญหลายๆ อย่างนั้นได้มาจากไอเดียของผู้ใช้ เช่นจากบรรดาอีเมล์ และ ความคิดเห็นมากมาย ที่ผู้ใช้ส่งเข้ามา ซึ่ง Pierre จะตอบในเวลากลางวัน และ นำไอเดียต่างๆ มาแก้ไขเว็บในเวลากลางคืน
กันยายน 1996
อีเบย์ครบขวบปีแรกพร้อมยอดขาย 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมทีมงานจำนวน 20 คน
1997
Pierre จดทะเบียน AuctionWeb ในนามของ eBay.com อย่างเป็นทางการ ตอนแรกเขาตั้งใจจะใช้ชื่อ EchoBay.com ตามชื่อบริษัทเล็กๆ ของเขา แต่โชคดีที่ชื่อนั้นมีเจ้าของแล้ว จึงลงเอยกับชื่อ eBay แทน และนั่นก็คือที่มาของชื่อเสียงเรียงนามธุรกิจดอทคอมอันมีมูลค่ามหาศาลในปัจจุบัน
ในปีนี้อีเบย์เริ่มขยับขยาย และมองหาผู้บริหารมือดีที่จะมานั่งเก้าอีหลักกุมบังเหียนด้านธุรกิจของบริษัท การขยับจากการเป็นเว็บทดลองมาเป็นบริษัทอย่างเป็นทางการ ทำให้อีเบย์ต้องพบกับปัญหามากมายจากการเติบโตอย่างรวดเร็วเกินรับมือ เช่น มีข้อมูลมากเกินบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเกิดจากการเข้ามาประกาศขายสินค้าที่มาขึ้นทุกวัน
เขาต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการตัดสินใจขึ้นค่าธรรมเนียมประกาศขายสินค้ากว่าเท่าตัวจาก 10 เซ็นต์ เป็น 25 เซ็นต์ พร้อมๆ กับตั้งลิมิตห้ามประกาศขายสินค้าเกิน 10,000 ชิ้นต่อวัน ซึ่งแทนที่จะทำให้คนประกาศขายของน้อยลง ลูกค้าอีเบย์กลับยินดีจ่ายเพิ่ม และยอมตื่นเช้าขึ้นเพื่อแย่งกันโพสต์ของขึ้นขายก่อนคู่แข่ง ปีนั้นนับเป็นปีที่โหดเอาการทีเดียวสำหรับบริษัทที่เพิ่งแจ้งเกิดอย่างอีเบย์
มกราคม 1998
Margaret C. Whitman เปิดประตูเข้าสู่อีเบย์ในตำแหน่ง CEO
กุมภาพันธ์ 1998
โอกาสที่ไม่เหมือนใครซึ่งอีเบย์มอบให้ทำให้เกิดการทุจริตขึ้นในวงการประมูลออนไลน์มากขึ้น อีเบย์จึงต้องรับมือด้วย Safe Harbor Program เพื่อป้องกันและปราบปรามการโกงในการติดต่อซื้อขาย
กันยายน 1998
อีเบย์จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ราคาหุ้นของอีเบย์ที่กำหนดไว้ครั้งแรกคือ1.97 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ปัจจุบันราคาหุ้นอีเบย์มีราคาสูงขึ้นมากถึง 21 เท่า หรืออยู่ที่ราว 42 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น
เมษายน 1999
เริ่มโครงการ "Voice of the Customer" ซึ่งอีเบย์จะสปอนเซอร์ให้สมาชิก 10 รายจากทั่วสหรัฐอเมริกาบินไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ เพื่อพูดคุยกับผู้บริหารซึ่งเปรียบเสมือนการทำการวิจัย Focus Groups ชั้นดีของอีเบย์ซึ่งจะทำขึ้น 8 ครั้งต่อปีเพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาเว็บไซต์และบริการของอีเบย์ต่อไป
10 มิถุนายน 1999
อีกวันที่อีเบย์จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ หลังจากเซิร์ฟเวอร์ของอีเบย์ล่มหยุดทำงานนาน 22 ชั่วโมง Meg Whitman CEO ของอีเบย์ต้องสั่งให้พนักงานบริษัททั้ง 400 คนในขณะนั้นหยุดทำงานทุกอย่าง เพื่อช่วยกันโทรศัพท์ไปขอโทษลูกค้าทุกรายด้วยตัวเอง การแก้ไขสถานการณ์ของซีอีโอ ได้รับคำนิยมและกล่าวขวัญถึงว่าการรับมือกับปัญหาที่สามารถชนะใจลูกค้าได้อย่างยอดเยี่ยม
สิงหาคม 1999
อีเบย์เห็นโอกาสของตลาดรถมือสองที่ค่อยๆ เพิ่มความเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนในอีเบย์ จึงตัดสินใจเพิ่ม Category เกี่ยวกับรถยนต์เก่าและอะไหล่ขึ้นอย่างเป็นทางการ
2000
ธุรกิจอีเบย์ส่วนมากในระยะนี้ทำกำไรให้เจ้าของธุรกิจแทบทุกรายอย่างงาม เนื่องจากค่าใช้จ่ายน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ ทำให้ผู้ขายรายใหม่ๆ เริ่มมากขึ้น เกิดกระแสการหันมาขายของในอีเบย์แทนที่จะขายของเปิดท้าย หรือเปิด Garage Sale ในหมู่ชาวอเมริกัน
เมษายน 2000
ในที่สุด Category รถยนต์ในอีเบย์ก็กลายเป็น eBay Motors อย่างเต็มตัว
กรกฎาคม 2000
อีเบย์ซื้อธุรกิจอีคอมเมิร์ช Half.com ซึ่งเดิมขายหนังสือและซีดีที่ราคาถูกกว่าท้องตลาด ในรูปแบบ Fix-Price เพื่อขยายบริการของอีเบย์ ให้ครอบคลุมการซื้อขายทั้ง 2 รูปแบบ คือทั้ง ประมูล และ Fix-Price
ปัจจุบัน 27% ของการซื้อขายทั้งหมดของอีเบย์มาจากการซื้อขายแบบ Fix-Price ซึ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก16% และ ราวๆ 1% ในปีก่อนหน้านั้น
สิงหาคม 2000
เพื่อรับมือกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วขณะที่ฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้นทุกวัน เริ่มทำให้การใช้อีเบย์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ อีเบย์ตัดสินใจสร้างระบบการให้ความรู้ลูกค้าอย่างเป็นทางการ ด้วยการเปิดตัว eBay University เพื่อให้บริการเรื่องการพัฒนาความรู้ความเข้าใจ และการเรียนรู้การใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ของอีเบย์โดยเฉพาะ รวมทั้งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจอีเบย์ด้วย
หลังจากความสำเร็จของ Category รถยนต์ อีเบย์ก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อด้วยการเพิ่ม Category เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เข้าไปในประเภทสินค้า ซึ่งเป็นที่มาของ Rent.com ในปัจจุบัน โดยสามารถปิดการขายอสังหาริมทรัพย์ได้เฉลี่ย 25 รายการต่อวัน
หลังจากอีเบย์ประกาศเปิดพื้นที่ให้แก่การโฆษณาประเภท Banner Ad เหล่าสมาชิกอีเบย์ก็ตอบโต้ด้วยการประท้วงครั้งใหญ่ซึ่งถูกขนานนามว่า Million Auction March
มกราคม 2001
การเปิดให้ใช้ฟังก์ชั่น Buy It Now เป็นครั้งแรก เปิดโอกาสให้มีการซื้อขายอย่างรวดเร็วด้วยรูปแบบ Fix-Price ซึ่งปัจจุบัน 40% ของการประกาศขายสินค้าทั้งหมดใช้ฟังก์ชั่นนี้
กรกฎาคม 2001
เปิดตัวอีกทางเลือกของการขายในรูปแบบพื้นที่หน้าร้านออนไลน์ ในนามของ eBay Stores บริการเสริมที่อำนวยความสะดวกและเปิดโอกาสให้กับผู้ขายมากขึ้น ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 30,000 รายในทันทีที่เปิดให้บริการ
กรกฎาคม 2002
อีเบย์ทุ่มงบซื้อหุ้นของระบบจ่ายเงินทางอินเทอร์เน็ต PayPal รวมมูลค่า $1.5 พันล้านเหรียญ เพื่อใช้เป็นบริการจ่ายเงินหลักของอีเบย์และเว็บไซต์ในเครือ
22 มิถุนายน 2004
อีเบย์ซื้อหุ้นของเว็บประมูลอินเดีย www.baazee.com รวมมูลค่า $50 ล้าน เพื่อรวมให้เป็นหนึ่งในเครือข่ายเว็บลูกทั่วโลกของอีเบย์
กันยายน 2004
อีเบย์ซื้อหุ้นจำนวน 3 ล้านหุ้น ในราคา 125,000 วอน หรือ $109 ต่อหุ้นจาก Internet Auction Co. เว็บประมูลซึ่งเป็นคู่แข่งหลักในเกาหลี
3 ธันวาคม 2004
พบกับอีกขั้นของการค้นหาสินค้า เมื่ออีเบย์เพิ่มฟังก์ชั่น Want It Now เพื่อช่วยผู้ซื้อหาสินค้าที่ยังไม่มีวางขาย ด้วยการ Search สินค้าที่ประกาศขายใหม่บนอีเบย์ทุกชิ้น ทุกวัน ตลอดหกเดือนและแจ้งกลับทันทีที่พบของที่ต้องการ
16 ธันวาคม 2004
อีเบย์ซื้อธุรกิจ Rent.com มาในราคา $415 ล้าน
มกราคม 2005
อีเบย์เกริ่นเรื่องการขึ้นค่าบริการเป็นครั้งที่ห้าในรอบอายุห้าปี ซึ่งหากเป็นไปตามที่ประกาศการขึ้นค่าบริการครั้งนี้จะเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อีเบย์
19 มกราคม 2005
ปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่ตลาดหุ้น หลังจากอีเบย์ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าในไตรมาสแรกบริษัทสามารถทำยอดขายและกำไรได้สูงขึ้น 44% แต่กลับทำให้ราคาหุ้นของอีเบย์ตกลงถึง 19% ในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการเพิ่มขึ้นของยอดขายและกำไรที่ไม่มากเท่าที่นักลงทุนคาดหวัง หลายๆ คนพากันตั้งข้อสังเกตว่าอีเบย์อาจจะกำลังเข้าสู่ขาลง
แต่อีเบย์กลับโต้ตอบความตื่นตระหนกของนักลงทุนด้วยการตัดสินใจลงทุนเพิ่มขึ้นอีก 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ( สูงกว่าที่ตั้งไว้ถึงร้อยละ 50 ) ในธุรกิจใหม่ๆ เช่น PayPal และเว็บอีเบย์ในประเทศจีน
18 กุมภาพันธ์ 2005
วันนี้คือวันที่การประกาศขึ้นค่าบริการครั้งล่าสุดของอีเบย์มีผลบังคับใช้ในที่สุด แม้ว่ามันจะทำให้สมาชิกอีเบย์ไม่พอใจ และพร้อมใจกันถอนตัวจากอีเบย์เป็นจำนวนมาก และผู้ใช้กว่า 24,000 รายก็ได้รวมตัวกันทำบัญชีหางว่าวเพื่อต่อต้านการขึ้นราคาครั้งนี้ด้วย เนื่องจากมันจะมีผลกระทบต่อผู้ใช้อีเบย์ทุกๆ ราย โดยเฉพาะผู้ที่มี Virtual Store อยู่บนอีเบย์ซึ่งจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้อีเบย์สูงถึง 8% จากเดิม 5.25% หลังการประกาศขึ้นค่าบริการของอีเบย์ มีการรายงานตัวเลขว่าร้านค้า eBay Stores นั้นได้พร้อมใจกันปิดตัวลงถึง 7,000 ร้านในเพียงเวลา 5 สัปดาห์
นักวิเคราะห์กล่าวว่าการขึ้นราคาค่าธรรมเนียมของอีเบย์นั้นจะสามารถเพิ่มรายได้ให้อีเบย์เพียง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 1 จากยอดขายรวมที่คาดไว้ของปีนี้ที่ 4.3 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ในขณะที่การเพิ่มค่าธรรมเนียมจะเป็นเหตุให้จำนวนผู้ขายลดลง รวมทั้งทำให้ผู้ขายเก่าขาดความจงรักภักดีในแบรนด์อีเบย์ด้วย
แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ที่เลิกใช้อีเบย์ไม่มากเท่าปากพูด เนื่องจากอีเบย์ยังคงเป็นพื้นที่การขายที่มีการเคลื่อนไหวสูง มีสมาชิกเข้าออก และใช้บริการสูงสุด จนคุ้มค่าจ่ายแพง แต่อีเบย์ก็ควรต้องระวังการพัฒนาของคู่แข่งอย่าง Amazon, Yahoo, Google , Google Search Engine Ad และ Overstock เว็บประมูลรายใหม่ที่กำลังมาแรงซึ่งอ้างว่าจำนวนการประกาศขายสินค้านั้นเพิ่มขึ้นพรวดพราดถึง 50% ทันทีที่อีเบย์ประกาศขึ้นราคาค่าธรรมเนียม
แม้ว่าในปัจจุบันประสบการณ์การถูกฉ้อโกงจากการซื้อขายจะเป็นอีกปัญหาหลักที่ทำให้ลูกค้าส่วนหนึ่งปฏิเสธที่จะซื้อขายผ่านอีเบย์ต่อไป แต่ถึงกระนั้นอีเบย์ก็ยังคงอ้างสถิติว่าในการซื้อขาย 200 ครั้ง จะมีน้อยกว่า 1 ครั้งที่ล้มเหลว และเกิดการโกงผ่านเครดิตการ์ดเพียง 0.09% เท่านั้น นอกจากนั้นอีเบย์ยังใช้พนักงานถึง 1,000 คน จากจำนวนพนักงานทั้งหมด 4,000 คนในปัจจุบัน เพื่อทำหน้าที่ปราบปรามการฉ้อโกงในการซื้อขาย
แต่ไม่ว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์อีเบย์จะเป็นเช่นไร เว็บไซต์ประมูลออนไลน์เจ้าใหญ่ที่สุดของโลกรายนี้ก็ยังสามารถทำยอดรวมในด้านต่างๆ ได้สูงกว่าคู่แข่งทุกรายแบบลอยลำ และยังมองว่าความสมบูรณ์ขึ้นของระบบอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ทั่วโลกในปีนี้จะทำให้ธุรกิจโดยรวมของอีเบย์ดีขึ้นอีกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะการประกาศขายจะสามารถพัฒนามาใช้รูปแบบของวิดีโอ และเสียงเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกและช่วยให้การตัดสินใจซื้อเป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วย
eBay Facts & Figure
ปัจจุบันอีเบย์มีสมาชิกราว 135.5 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งเปรียบได้กับประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 11 ของโลก ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกที่ใช้งานประจำราว 56.1 ล้านราย ในขณะที่ 264,000 รายมี eBay Store ของตัวเอง
ในปี 2004 มีสินค้าที่ประกาศขายบนอีเบย์ทั้งหมดประมาณ 1,400 ล้านชิ้น ขึ้นจาก 971 ล้านชิ้นในปี 2003 และมีสินค้าประกาศขายใหม่ประมาณ 3 ล้าน 5 แสนชิ้นต่อวัน ซึ่งสามารถแบ่งแยกหมวดหมู่ออกได้ถึง 45,000 หมวดหมู่
ในปี 2004 ที่ผ่านมาอีเบย์มียอดขายรวม $34,200 ล้าน ซึ่งคิดเป็นยอดขายประมาณ $1,084 ต่อหนึ่งวินาที ขึ้นมา 44% จากยอดขายรวมในปี 2003 ที่ $23,800 ล้าน และมีกำไรสุทธิ $3,270 ล้าน เพิ่มขึ้น 51% จากปีก่อน $ 2,170 ล้าน สินค้าที่ขายดีที่สุดในปี 2004 ได้แก่ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า และ เครื่องประดับ และ 46% ของจากยอดขายทั้งหมดเป็นการซื้อขายแบบข้ามชาติ
หลังจากจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนอีเบย์ก็สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 70% ได้ทุกปีเรื่อยมา ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการธุรกิจโลก กำไรโดยรวมที่สูงอยู่แล้วก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 73% เมื่อสี่ปีที่แล้ว เป็น 82% ในไตรมาสแรกของปีนี้ ในขณะที่ธุรกิจโดยรวมของอีเบย์ก็เติบโตอย่างรวดเร็วที่ 50% ต่อปี
eBay Myth : ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอีเบย์
- อีเบย์เป็นแหล่งขายสินค้าเก่าเท่านั้น ความจริง แล้วมีสินค้าใหม่มากมายบนอีเบย์ ตั้งแต่ CD หนังสือ เสื้อผ้า ไปจนถึง คอมพิวเตอร์ เครื่องตัดหญ้า และ รถยนต์
- อีเบย์เป็นพื้นที่การขายแบบประมูลเท่านั้น ปัจจุบันสามารถซื้อขายสินค้าแบบ Fix-Price ได้ทันทีจากฟังก์ชั่น “Buy It Now” หรือ เข้าไปใช้บริการของ stores.ebay.com หรือ half.ebay.com
- อีเบย์ขายเฉพาะของสะสมเท่านั้น ปัจจุบันอีเบย์มีสินค้าหลากหลายถึง 11 ประเภทใหญ่ๆ ไม่นับสินค้าเพื่อการสะสม ซึ่งมียอดขายลดลงจาก 60% ของยอดขายสินค้าทั้งหมดในปี 1999 เป็น 13% ในปี 2002 ในขณะที่สินค้าปกติ เช่น เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เพิ่มจาก 40% ของยอดขายสินค้าทั้งหมดในปี 1999 เป็น 87% ในปี 2003

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

คลังบทความของบล็อก